CMAN ครึ่งปีแรกโชว์รายได้ 1.9 พันลบ. กำไร 152 ลบ.ชูกลยุทธ์ลุยขยายฐานลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตครึ่งปีหลังเน้นควบคุมต้นทุน ศึกษาแผนขยายธุรกิจ ดันผลงานเติบโตโดดเด่น

CMAN ครึ่งปีแรกโชว์รายได้ 1.9 พันลบ. กำไร 152 ลบ.ชูกลยุทธ์ลุยขยายฐานลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตครึ่งปีหลังเน้นควบคุมต้นทุน ศึกษาแผนขยายธุรกิจ ดันผลงานเติบโตโดดเด่น

บมจ.เคมีแมน หรือ CMAN ผู้ผลิตปูนไลม์ครบวงจรระดับท็อปเทนของโลก ท็อปฟอร์ม! เปิดผลงาน 6 เดือนแรกปี 66 กวาดรายได้ 1,920 ล้านบาท กำไรสุทธิ 152 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการปรับแผนกลยุทธ์ระยะยาว หนุนความสามารถในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านผู้บริหาร "อดิศักดิ์ เหล่าจันทร์" โชว์ศักยภาพธุรกิจเจ้าของเหมืองหินปูนเคมีคุณภาพสูงในไทยและเวียดนาม กางแผนครึ่งปีหลัง ศึกษาแผนขยายธุรกิจ ลงทุนพลังงานสะอาดช่วยลดต้นทุนและรักษาสิ่งแวดล้อม เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มั่นใจเติบโตโดดเด่นอย่างยั่งยืน

นายอดิศักดิ์ เหล่าจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคมีแมน จำกัด(มหาชน) หรือ CMAN ผู้ผลิตปูนไลม์ครบวงจรระดับท๊อปเทนของโลก ภายใต้แบรนด์ 'CHEMEMAN' เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 สามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีรายได้รวม จำนวน 1,920 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86 ล้านบาท หรือ 4.6% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ที่ทำได้ 1,834 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท จำนวน 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.9% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2565 และเทียบเท่ากำไรสุทธิของทั้งปี 2565 ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2566 มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ทำได้851 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น จำนวน 59 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 4 ล้านบาท

การดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลจากการปรับแผนกลยุทธ์ระยะยาวขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม สามารถบริหารจัดการการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และส่งมอบสินค้าอย่างรวดเร็ว เพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

“เคมีแมนเป็นผู้ผลิตปูนไลม์ชั้นนำของคนไทย ที่มีเหมืองแร่หินปูนเคมีคุณภาพสูงทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม  ทำให้บริษัทมีแหล่งวัตถุดิบที่มั่นคงและสม่ำเสมอ สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ตามมาตรฐานของลูกค้า และบริหารต้นทุนวัตถุดิบได้เมื่อตลาดผันผวน อีกทั้งมีโรงงานผลิตปูนไลม์ในประเทศไทย เวียดนาม และอินเดีย และศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ที่ล้ำสมัยในประเทศออสเตรเลียสามารถขยายฐานลูกค้าได้ครอบคลุมหลายภูมิภาคและหลายกลุ่มอุตสาหกรรม  เป็นปัจจัยส่งเสริมในการสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี” นายอดิศักดิ์กล่าว

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 3 ปี 2566 ประเมินว่าความต้องการปูมไลม์จะลดลง เนื่องจากเป็นช่วงlow season ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก บริษัทฯ จึงวางแผนหยุดเดินเตาเผาปูนไลม์เพื่อซ่อมบำรุงใหญ่ประจำปีและปรับปรุงประสิทธิภาพ เตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตในไตรมาส 4 ซึ่งโดยปกติของทุกปีจะเป็นช่วงเริ่มต้น high season ของความต้องการสินค้าปูนไลม์

เขากล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง “บริษัทฯ มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูง เพิ่มยอดขายในกลุ่มลูกค้าที่มีอัตรากำไรเหมาะสม พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจไปยังประเทศเป้าหมายอื่นๆ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ (Business Footprint) และเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีอัตราการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานและการเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลต่อความต้องการปูนไลม์ทั้งทางตรงและทางอ้อม

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการดำเนินนโยบายเพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว จึงมีแผนการลงทุนในโครงการ Solar Farm และขยายการใช้รถไฟฟ้า (Electric Vehicles) เพิ่มเติม ประกอบด้วยรถตักไฟฟ้า (Electric Wheel Loaders) และรถบรรทุกไฟฟ้า (Electric Trucks) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ข่าวเกี่ยวข้อง